Personal Data Protection Act
Privacy Center
แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) >
สำหรับ ผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือบุคคลอื่น
ซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้

แบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับ ผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ไออาร์พีซี” หรือ “บริษัทฯ”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้สมัครงาน บุคคลในครอบครัวของผู้สมัครงาน หรือบุคคลอื่นซึ่งผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้ (ซึ่งรวมเรียกว่า “ท่าน”) มั่นใจได้ว่าบริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้กำหนดแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งดำเนินการอยู่ในปัจุบันและอาจเกิดขึ้นในอนาคต ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อบริษัทฯ
ทั้งนี้ ไออาร์พีซีจะดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัย ตลอดจนป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลของท่านไปใช้ใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้โดยมิได้รับอนุญาต
1. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครงานของไออาร์พีซี เรามีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
1. เพื่อพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครงาน ยืนยันตัวตน และรับสมัครงาน การปฏิบัติตามสัญญา (Contractual Basis) รวมถึงการปฏิบัติตามคำขอก่อนและหลังการเข้าทำสัญญา
2. เพื่อติดต่อนัดหมายสัมภาษณ์ ติดต่อสื่อสาร
3. เพื่อคัดเลือกผู้สมัครงานที่ผ่านเกณฑ์
4. เพื่อตรวจสอบประวัติของผู้สมัครงานก่อนการจ้างงาน เพื่อผลประโยชน์โดยชอบธรรม (Legitimate Interest)
5. เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของไออาร์พีซี ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) และประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
6. เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยการเข้าอาคาร สถานที่ปฏิบัติงาน หรือพื้นที่เฉพาะของไออาร์พีซี ตลอดจนเพื่อสังเกตการณ์ ป้องกัน ขัดขวาง และตรวจสอบการเข้าบริเวณดังกล่าวโดยมิได้รับอนุญาต เช่น การแลกบัตร การลงทะเบียน การบันทึกประวัติและข้อมูลที่จำเป็นของผู้สมัครงาน
7. เพื่อตรวจสุขภาพและตรวจสอบคุณสมบัติในการทำงาน ความยินยอม (Consent) เนื่องจากเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
8. เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
9. เพื่อตรวจสอบข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงที่ผู้สมัครระบุไว้
ในบางกรณีบริษัทฯ อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นซึ่งท่านได้ให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้ ไออาร์พีซีประมวลผลข้อมูลของบุคคลเหล่านั้น โดยอาศัยฐานทางกฎหมายต่าง ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
1. เพื่อการติดต่อสื่อสารในกรณีจำเป็น หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ตรวจสอบข้อมูลของผู้สมัครงานจากบุคคลอ้างอิงที่ระบุ หรือ ติดต่อบุคคลอ้างอิงเพื่อตรวจสอบประวัติการทำงานของผู้สมัครงานก่อนหน้า แจ้งเหตุอันตรายที่เกิดแก่ผู้สมัครงานให้ทราบ เป็นต้น เพื่อผลประโยชน์โดยชอบธรรม (Legitimate Interest)
ไออาร์พีซีขอแจ้งให้ท่านทราบว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาศัยฐานทางกฎหมายประการต่าง ๆ ตามที่แจ้งไว้นี้ อย่างไรก็ตาม อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณีที่ไออาร์พีซีต้องดำเนินการขอความยินยอมจากท่าน เช่น กรณีที่กฎหมายกำหนดให้จะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Data) โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลความพิการและประวัติอาชญากรรม ในกรณีเช่นนั้น ไออาร์พีซีจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน
ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลในครอบครัวหรือบุคคลอื่นแก่บริษัทฯ นั้น ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไออาร์พีซีเก็บรวบรวมข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อไออาร์พีซีในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญาซึ่งเกี่ยวเนื่องกับรับเข้าทำงาน หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว ไออาร์พีซีอาจไม่สามารถดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติของท่านได้ และอาจปฏิเสธคำขอรับสมัครเข้าทำงานจากท่านได้
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
โดยทั่วไปแล้ว ไออาร์พีซีจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ตามข้อ 1 เท่านั้น ทั้งนี้ หากมีกรณีจำเป็นที่ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ในข้อ 1 ไออาร์พีซีจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่อีกครั้ง ในกรณีที่ต้องขอความยินยอม
ไออาร์พีซีมีการขอข้อมูลจากท่านโดยตรง เช่น ได้รับมาโดยตรงจากการยื่นใบสมัครงานของท่านผ่านช่องทางที่ไออาร์พีซีเปิดไว้ การให้ท่านกรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่ไออาร์พีซีกำหนด สอบถามจากท่าน หรือขอให้ท่านส่งเอกสารที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ไออาร์พีซี แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่ ไออาร์พีซีเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น เช่น
1)
แหล่งข้อมูลจากบริษัทในเครือที่ได้อ้างอิง หรือ บริษัทหรือบุคคลที่แนะนำท่านให้กับไออาร์พีซี เช่น บริษัทรับสมัครงาน
2)
มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของท่าน
3)
แหล่งข้อมูลสาธารณะ เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานราชการ
4)
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานที่เป็นผู้พิการ อาจมีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจาก ผู้ดูแลผู้พิการ มูลนิธิและ/หรือสมาคมเกี่ยวกับผู้พิการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ พ.ศ. 2550 (เพื่อพิจารณาใช้ประกอบเรื่องเงินกองทุนผู้พิการ)
5)
หน่วยงานหรือองค์กรที่ท่านได้เคยปฏิบัติงาน
6)
หน่วยงานราชการ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไออาร์พีซีดำเนินการเก็บรวบรวมนั้น มีดังต่อไปนี้
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
1)
ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน สัญชาติ รูปภาพ ข้อมูลบนสำเนาบัตรประชาชนที่ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว วันเดือนปีเกิด
2)
ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์
3)
ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น สถานภาพสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร ความรู้ทางภาษา สถานภาพทางทหาร รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอ้างอิง
4)
ข้อมูลระบุตัวตนของบุคคลในครอบครัว (บิดา มารดา คู่สมรส) เช่น ชื่อ นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด เพศ อายุ อาชีพ เป็นต้น
2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
ไออาร์พีซีไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลศาสนา เชื้อชาติและหมู่โลหิตที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ ในกรณีที่ท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่ไออาร์พีซี บริษัทฯ ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้ไออาร์พีซีดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้นให้แทน และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากไออาร์พีซีไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ ไออาร์พีซีจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากไออาร์พีซีมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เพื่อวัตถุประสงค์ใด ไออาร์พีซีจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน ทั้งนี้ ไออาร์พีซีอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น
1)
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่ปรากฎตามสำเนาบัตรประชาชน เช่น ข้อมูลศาสนา เชื้อชาติ หมู่โลหิต
2)
ข้อมูลสุขภาพ ประวัติสุขภาพ ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวที่ปรากฎในใบรับรองแพทย์
3)
ข้อมูลความพิการ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวผู้พิการ และ สำเนาบัตรผู้ดูแลพิการ
4)
ประวัติอาชญากรรม
3. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
ไออาร์พีซีจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ รวมถึงความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของไออาร์พีซี
ไออาร์พีซีกำหนดมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความเหมาะสม ครอบคลุมถึงความปลอดภัยในข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในรูปแบบของเอกสาร ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือต่างๆ โดยดำเนินการเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ท่านมีความมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของไออาร์พีซี โดยครอบคลุมถึงการป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบหรือกระทำการโดยปราศจากอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย
ไออาร์พีซีได้จำกัดการเข้าถึงและใช้เทคโนโลยีในการรักษาความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อป้องกันมิให้มีการโจมตีหรือมีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ของไออาร์พีซีโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกเพื่อดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือแก่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ท่านมั่นใจว่าไออาร์พีซีจะดำเนินการกำกับดูแลบุคคลนั้นให้ดำเนินการอย่างเหมาะสมเป็นไปตามคำสั่ง
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ไออาร์พีซีอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภาย นอกเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เพื่อประโยชน์โดยชอบธรรม เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้นให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
1)
หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ (เฉพาะในกรณีที่ผู้สมัครงานเป็นผู้พิการ) เป็นต้น
2)
มหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาของท่าน
3)
บริษัทในเครือไออาร์พีซี เช่น บจ.น้ำมันไออาร์พีซี บจ.รักษ์ป่าสัก บจ.ไออาร์พีซี เอ แอนด์ แอล เป็นต้น
4)
โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล
5. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามกฎหมายผ่านทางเว็บไซต์ของไออาร์พีซี (https://pdpa.irpc.co.th/) ทั้งนี้ ไออาร์พีซีขอสงวนสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย โดยจะกำหนดค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงอย่างเหมาะสม
5.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
ในกรณีที่ไออาร์พีซี ขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับไออาร์พีซีได้ตลอดเวลา เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
5.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของไออาร์พีซี ทั้งในรูปแบบเอกสารและ/หรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ท่านร้องขอ รวมถึงขอให้ไออาร์พีซี เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อไออาร์พีซีได้
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกรณีดังกล่าวได้ หากเป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือการเข้าถึงหรือการรับสำเนานั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดควาเสียหายต่อบุคคลอื่น
5.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
ท่านอาจขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือให้แก่ไออาร์พีซีเพื่อปฏิบัติตามสัญญา และไออาร์พีซีได้เก็บรักษาไว้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอาจร้องขอให้ไออาร์พีซีโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบที่ไออาร์พีซีได้จัดระเบียบไว้แล้ว และสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือขอให้ส่งข้อมูลไปยังบุคคลอื่นตามความประสงค์ของท่าน
5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่มีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไออาร์พีซีไม่อาจดำเนินการได้ตามคำร้องขอของท่านได้
ทั้งนี้ หากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทฯ ดำเนินการด้วยเหตุอันชอบธรรมตามกฎหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการยกขึ้นสู่สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอของท่านได้
5.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
ท่านมีสิทธิขอให้ไออาร์พีซีลบและทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ไออาร์พีซีอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น ไออาร์พีซีจะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไออาร์พีซีไม่อาจดำเนินการได้ตามคำร้องขอของท่านได้
5.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
ท่านมีสิทธิขอให้ไออาร์พีซีระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่มีข้อจำกัดทางกฎหมายที่ไออาร์พีซีไม่อาจดำเนินการได้ตามคำร้องขอของท่านได้
5.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่ไออาร์พีซี มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้ไออาร์พีซีแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
5.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากไออาร์พีซีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ทั้งนี้ การใช้สิทธิของท่านตามที่ระบุไว้ข้างต้นต้องเป็นไปตามกฎหมายไออาร์พีซีอาจปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านข้างต้นได้ตามข้อจำกัดการใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนดและในกรณีที่ไออาร์พีซีมีการปฏิเสธการใช้สิทธิของท่าน ไออาร์พีซีจะแจ้งเหตุผลในการปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านไปพร้อมกันภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน
6. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
บริษัทฯ อาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของไออาร์พีซี (https://pdpa.irpc.co.th/) และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมลหรือช่องทางอื่น
ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านบริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
7. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
7.1 บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ :
เลขที่ 555/2 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น 10 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
เบอร์โทรศัพท์ :
02 765 7000
เว็บไซต์ :
https://pdpa.irpc.co.th/
7.2 เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ :
ศูนย์คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล IRPC
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เลขที่ 555/2 ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น 10 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
เบอร์โทรศัพท์ :
02 765 7000
อีเมล :
PDPAcenter@irpc.co.th